• Captions2
  • Captions3
  • Free!4
  • Captions5
  • Captions6

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แปลบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับ (Newtype ฉบับเดือนพฤศจิกายน)

สวัสดีครับ ^^

จากที่เมื่อครั้งก่อนได้นำดวงชะตาของหนุ่มๆทั้ง 5 มาให้ได้อ่านกัน

--> ย้อนกลับไปอ่านดวงชะตาหนุ่มๆกดที่นี่ <--

วันนี้เราจะมาต่อกันด้วยบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับจากนิตยสารเล่มเดียวกันนะครับ :D


 DIRECTOR'S INTERVIEW  



   อุซึมิ ฮิโรโกะ จุดพลิกผันของผลงานชิ้นนี้คืออะไร? มีความรู้สึกต่อตอนจบนั้นอย่างไร? เรามาถามคำถามเหล่านี้กับผู้กำกับมือใหม่ ผู้ที่สามารถสร้างสรรค์แอนิเมชั่นเด็กหนุ่มว่ายน้ำ "Free!" ให้โด่งดังและกลายเป็นที่รักได้กันค่ะ


----- มาถึงเส้นชัยแล้วนะคะ ยินดีด้วยค่ะ! ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะที่ว่ายมาจนสุดทางเสียที?

อุซึมิ: อารมณ์เดียวกับฉากที่รินว่ายฟรีสไตล์ 100 เมตรชนะฮารุกะ แล้วร้องออกมาเสียงดัง “ยชช่า!”ด้วยความดีใจนั่นค่ะ (หัวเราะ) รู้สึกว่าถึงจะยังไงก็ว่ายน้ำเสร็จซะทีล่ะน่า! อัดแน่นเต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ โดยส่วนตัวแล้วพอใจที่ได้วาดฉากที่อยากวาดค่ะ


----- คิดว่าทันทีที่เริ่มฉายก็คงจะมีเสียงสะท้อน [ความคิดเห็น] อะไรกลับมาบ้าง มีคำพูดแบบไหนที่ทำให้รู้สึกประทับใจบ้างคะ? 

อุซึมิ: ตอนที่มีคนที่ว่ายน้ำไม่ได้เรื่องเลยพูดว่า “ชักอยากจะว่ายน้ำขึ้นมาแล้วสิ!” มันทำให้ฉันรู้สึกดีใจมาก ๆ ค่ะ เคยคิดว่า “ถ้าเรื่องนี้ทำให้คนที่ชอบการว่ายน้ำอยากจะว่ายน้ำขึ้นมาได้ก็คงดีเนอะ” อะไรแบบนี้อยู่หรอกนะคะ แต่พอกลายเป็นว่ากระทั่งคนที่ว่ายน้ำไม่เก่งยังรู้สึกดีไปด้วยได้แบบนี้ฉันก็ดีใจค่ะ แล้วก็ เสียงตอบรับเรื่องชุดว่ายน้ำกับผ้ากันเปื้อนก็เยอะซะจนตกใจเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนฉายรอบปฐมทัศน์ [พอถึงฉากนี้] ทั้งห้องเงียบกริบจนคิดว่า “ไม่ไหวงั้นเหรอเนี่ย......” รู้สึกกังวลใจไปเลยค่ะ

----- เพราะว่าตอนงานรอบปฐมทัศน์ ทุกคนอยู่ในบรรยากาศที่ว่าจะลองตั้งใจดูก่อนละกันด้วยล่ะค่ะ 

อุซึมิ: ค่ะ เพราะงั้น (พอมีเสียงตอบรับแบบนี้) ก็เลยโล่งใจว่า รอดแล้วเรา~ ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เป็นมุกที่ใช้แค่ครั้งเดียว แต่ผู้เขียนบทละครตอนที่ 6 (คุณโยชิดะ เรย์โกะ) กลับแทรกมันเข้าไปในเนื้อเรื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบนั้น ทำให้ฉันหัวเราะเลยล่ะค่ะ (หัวเราะ) อีกอย่าง โดยส่วนตัวแล้วฉันก็ดีใจที่ได้รับเสียงตอบรับทำนองว่า “กล้ามสวยจนทนไม่ไหวแล้ว!” หรือ “กล้ามเท่จังเลย!” ด้วยค่ะ เรียกว่าเป็นความสุขที่สามารถถ่ายทอดให้ผู้ชมรับรู้ถึงมนต์เสน่ห์ของเรือนร่างช่วงบนก็ได้ล่ะมั้งคะ

----- ในฐานะผู้กำกับเนี่ย พอผลงานชิ้นนี้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว รู้สึกอย่างไรเป็นอันดับแรกคะ? 

อุซึมิ: ได้รู้สึกอีกครั้งค่ะว่า ในทุก ๆ ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มวางแผนจนถึงส่งผลงาน ล้วนแต่ได้รับการช่วยเหลืออย่างมากมายมากกว่าที่คาดไว้ ได้รับความร่วมมือร่วมใจอย่างแข็งขันของผู้คนมากหน้าหลายตา จนในที่สุดฉันก็สามารถสร้างแอนิเมชั่นให้สำเร็จได้เป็นครั้งแรกค่ะ


----- จุดพลิกผันในการสร้างผลงานคืออะไรคะ? 

อุซึมิ: เดิมทีแล้วฉันทำงานด้านการวาดภาพ ก็เลยไม่ถนัดเรื่องการแต่งเรื่องค่ะ...... เพราะงั้นถ้าลองนึกย้อนกลับไปแล้ว ส่วนที่ลำบากที่สุดก็คงเป็นจุดนั้นแหละค่ะ โครงเรื่องตอนจบถูกวางไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็จริง แต่การตรวจทานว่าเนื้อเรื่องตั้งแต่ครึ่งหลังไปจนถึงตอนจบมันสอดคล้องกันดีไหม [มีเหตุผลรองรับเพียงพอหรือเปล่า] เป็นเรื่องที่ยาก และเสียเวลามากค่ะ ในระหว่างนั้นเอง คุณอิชิฮาระ (ทัตซึยะ) ซึ่งเข้ามารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ก็พูดกับฉันว่า “ถ้าผู้กำกับไม่พูดสิ่งที่ตัวเองอยากทำให้ชัดเจน งานก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้นะครับ” ฉันถึงกับเหวอไปเลยค่ะ เพราะจนถึงตอนนั้นดิฉันคิดมาโดยตลอดว่า “เนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่ทุกคนควรช่วยกันคิดเนอะ?” แต่พอรู้ตัวว่าทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยเริ่มคิด [เนื้อหา] อย่างจริงจังตั้งแต่ตอนนั้นมาค่ะ ดังนั้นพอลองเข้าไปสัมผัสความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวดู ก็ได้พบหนทางที่คิดว่า “อ๊ะ ถ้าทำแบบนี้ จะต้องพาเรื่องให้ไปถึงตอนจบได้แน่ ๆ” ประมาณนั้นค่ะ ดังนั้น ถ้าถามว่าอะไรเป็นจุดพลิกผัน ก็ต้องเป็นตอนที่พออธิบายพล็อตเรื่องดังกล่าวให้สต๊าฟทุกคนฟังเสียยืดยาว แล้วคำตอบที่ได้มาคือ “โอ้ แบบนั้นก็ดีนี่?” นั่นแหละค่ะ



----- อธิบายไปอย่างไรหรือคะ? 

อุซึมิ: บอกว่า ตั้งแต่ตอนที่ 7 จะดำเนินเรื่องโดยยึดที่การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจของฮารุกะ ริน และเรย์เป็นหลักค่ะ ฉันเอาสิ่งที่เคยเขียนลงในสมุดโน้ตตอนที่เอาแต่หมกมุ่น [เรื่องบท] จนไม่รู้ตัว มาอ่านต่อหน้าทุกคนในที่ประชุมบทละครราวกับกำลังอ่านออกเสียง [ในวิชา] ภาษาญี่ปุ่นอยู่ จนมีคนขัดขึ้นมาว่า “ยาวขนาดนั้นจำไม่ไหวหรอก เอานั่นไปถ่ายเอกสารแล้วแจกทุกคนซิ!” จากนั้นข้อความอันน่าอับอายและลายมือไก่เขี่ยมาก ๆ นั่นก็ไปถึงมือของทุกคนแบบมึน ๆ นั่นแหละค่ะ...... (หัวเราะ)

------ (หัวเราะ) 

อุซึมิ: ก็เลยอธิบายโดยใช้นั่นประกอบค่ะ อย่างแรกเลย ฮารุกะเนี่ยเดิมทีสนใจแต่เรื่องของรินเท่านั้น เราจะทำยังไงให้เขาหันมาสนใจเพื่อน ๆ รอบกายได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือ การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจแบบไหนที่จำเป็นในการทำให้เขายอมเอ่ยปากว่าจะว่ายผลัดผสมได้ ฉันคิดว่าการที่เขายอมเอ่ยปากด้วยตัวเองนี่แหละที่ทำให้เราเห็นพัฒนาการของเขาค่ะ ในอีกด้านหนึ่ง ในสายตาของรินก็มองเห็นแต่ฮารุกะแค่คนเดียว อีกทั้งเขายังคอยไล่ตามความฝันของคุณพ่ออยู่ ดังนั้นก็เลยไม่สนใจเพื่อนฝูงเลย เพราะฉะนั้นฉันเองก็เลยคิดหาว่า การเปลี่ยนแปลงแบบไหนที่จำเป็นต่อจุดที่ว่านั่นค่ะ ถ้าเอาตามจริง ฮารุกะกับรินก็คงจะมาเผชิญหน้ากันโดยตรงไปแล้ว และเรื่องราวก็คงจะถึงตอนจบ แต่แบบนั้นมันไม่ใช่ธีมของเรื่องนี้ ดังนั้นก็เลยจะลองเสี่ยงทำตอนที่ 7 แล้วก็ส่วนของเรย์ ที่จริงเขาก็ไม่ได้มีท่าทีหรือทัศนคติอะไรเป็นพิเศษกับรินเลย ดังนั้นพอเห็นว่าทุกคนเอาแต่พูดเรื่องของคนที่ตัวเองไม่รู้จักก็เลยรู้สึกเป็นตัวเองเป็นส่วนเกิน ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะตัวเองเข้ามาทีหลังเอง แต่ความสัมพันธ์ที่เข้าใจยากระหว่างฝั่งของพวกฮารุกะกับริน ทำให้ความขุ่นข้องใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งไปกว่านั้น ฉันคิดว่าถ้าเป็นเรย์ล่ะก็คงจะเอาความรู้สึกเหล่านั้นเข้าไปโจมตีรินหรือเปล่า? ทำนองนั้นน่ะค่ะ ด้วยนิสัยของเรย์ที่จะต้องทำให้เรื่องที่ไม่เข้าใจกระจ่าง เขาจึงเข้าไปปะทะแล้วพูดกับริน และก็เลยทำให้รินเข้าใจความรู้สึกของตัวเองเสียที ฉันพูดไปประมาณนั้นน่ะค่ะ ซึ่งพอคุณโยโกทานิ มาซาฮิโระ ที่เป็นผู้เรียบเรียงบท และทุก ๆ คนต่างก็เข้าใจและยอมรับสิ่งที่ได้เสนอไป ก็เดินหน้าสร้างงานแบบรวดเดียวเลยค่ะ

----- แล้วก็ เกี่ยวกับตอนจบที่เพิ่งผ่านไปนะคะ เป็นงานโปรดักชั่นที่ [ทีมงาน] ใส่ใจเกี่ยวกับน้ำในทุก ๆ จุด และทำให้เรารู้สึกถึงสายสัมพันธ์ที่มี เช่น ฉากที่ฮารุกะจ้องมองน้ำตาของริน สุดยอดมาก ๆ เลยล่ะค่ะ 

อุซึมิ: ขอบคุณค่ะ ขอรับคำชมไปนะคะ (หัวเราะ)

----- แต่ว่า เรย์ในตอนจบเท่มาก ๆ มากเสียจนรู้สึกปวดใจเหมือนกันค่ะ 

อุซึมิ: นั่นสินะคะ ในที่ประชุมบทละครเองก็มีความเห็นว่า เรย์น่าสงสาร เยอะทีเดียวค่ะ ฉันก็เตรียมใจไว้อยู่แล้วล่ะค่ะว่าพอฉายตอนนี้ไปจะต้องมีเสียงสะท้อนที่หลากหลายกลับมา แน่นอนว่าเรย์อยากจะว่ายน้ำกับพวกฮารุกะ แต่ยิ่งกว่านั้นแล้ว เรย์รู้สึกเห็นใจ (心を動かされて) และอยากทำแบบนั้น [ช่วยเพื่อน] จึงกลายมาเป็นผลลัพธ์อย่างที่เห็นนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นฉันว่าเรย์จะไม่เสียใจตัดสินใจไปแบบนั้นหรอกค่ะ



----- ทั้งเรย์และรินต่างก็มีอนาคตข้างหน้ารออยู่ด้วยแหละนะคะ 

อุซึมิ: ใช่ค่ะ จริง ๆ มีความเห็นทำนองว่า ในตอนสุดท้ายหลังจากที่รินว่ายผลัดผสมกับพวกฮารุกะแล้ว ก็ให้รินกลับมาอยู่กับพวกฮารุกะเลยไม่ดีเหรอ? อะไรแบบนี้อยู่นะคะ แต่ฉันว่าแบบนั้นจะกลายเป็นว่ารินก็แค่กลับมายังที่เดิม และไม่ได้เติบโตขึ้น ซึ่งฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นค่ะ ฉันอยากให้พวกเขาได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ ๆ แล้วมุ่งไปสู่อนาคตใหม่ ๆ ค่ะ

----- ทุก ๆ คนจะรอดูว่าจากนี้ไปคุณผู้กำกับจะทำอะไรต่อไปนะคะ 

อุซึมิ: ถึงแม้ว่าจากตรงนี้ [คำทำนาย] จะสามารถบอกอนาคตของพวกเขาได้โดยกว้าง ๆ แต่ว่าสำหรับฉันแล้ว เรื่องราวของ “Free!” ยังคงดำเนินอยู่ค่ะ สิ่งไหนที่ฉันยังสามารถทำให้พวกเขาได้ ฉันก็อยากจะทำให้ต่อไปค่ะ

----- ว่าแต่ เดือนพฤศจิกายนเนี่ยเป็นเดือนเกิดมาโกโตะคุงสินะคะ! ทางพวกฮารุกะก็จัดงานปาร์ตี้ให้แล้วด้วย เพราะงั้นขอข้อความอวยพรมาโกโตะคุงจากคุณผู้กำกับด้วยค่ะ 

อุซึมิ: สุขสันต์วันเกิดนะ มาโกโตะ ขอให้เธอยังคงเป็นหนุ่มสุดวิเศษ และมีรอยยิ้มแสนใจดีมากระชากหัวใจพวกเราอย่างนี้เสมอไปนะ (รูปหัวใจ)... พูดแบบนั้นไปด้วย แล้วก็บิดช็อกโกแลตขนาดใหญ่พิเศษ (ของโปรดของมาโกโตะ) ตั้งแต่หัวลงมา! ขอประมาณนี้ได้ไหมคะ (เขิน)

1 ความคิดเห็น:

  1. สะ.... สายตากับรอยยิ้มของฮารุกะ..... ถ้ามันจะหวานขนาดนี้นะ!!! TwT!!!

    ตอบลบ